เตรียมตัวก่อนไปไต้หวัน

สำหรับมือใหม่ที่ไม่ค่อยได้เดินทางไปต่างประเทสมากนัก หรือแม้จะไปที่นั่นนี่บ่อยๆก็ยังมักจะถามกันว่า ไปไต้หวันต้องทำยังไงบ้างนิ เนื่องจากด้วยความที่ต้องขอวีซ่าเลยรู้สึกว่าเรื่องเยอะหน่อย ไม่เหมือนญี่ปุ่น ไม่ต้องขอวีซ่าจองตั๋วแล้วไปได้เลย ซึ่งการเตรียมตัวก็ไม่ได้ยากเย็นต่างจากประเทศอื่นแต่อย่างไร แต่จะมีทริกเล็กน้อยมาแนะนำตั้งแต่การเตรียมขอวีซ่า ไปจนถึงเตรียมตัวไปเที่ยว

พูดจีนไม่ได้ อังกฤษได้นิดหน่อย – แม้จะพูดจีนไม่ได้ (ที่นี่ใช้จีนตัวเต็ม ต่างจากจีนแผนดินใหญ่ที่ใช้จีนตัวย่อ) ก็สามารถเที่ยวได้สบายๆ สถานที่ส่วนใหญ่มีป้ายภาอังกฤษกำกับอย่างชัดเจน แค่พอจำชื่อสถานที่ได้ก้พอ โดยเฉพาะในตัวเมืองไทเป หรือจะนั่งรถไปต่างเมืองก็ยังมีป้ายภาษาอังกฤษเป็นระยะ และคนที่นี่ถ้ารุ่นใหม่ๆก็มักจะพูดอังกฤษได้อยู่บ้าง และตอนนี้คนไทยไปเที่ยวไต้หวันเยอะมากทำให้สถานที่ต่างๆหรือตามร้านค้ามีเมนุหรือป้ายภาไทยกำกับไว้ด้วยละ
ความปลอดภัย – ไต้หวัน โดยเฉพาะไทเปขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองที่มีความปลอดภัยสูงมาก เป็นรองก็แค่โตเกียว หรือโวลเท่านั้น เพราะฉะนั้นแม้จะเดินกลางคืนก็จัดได้ว่าปลอดภัย (แต่ก็ไม่ควรประมาทระวังตัวเองอยู่บ้าง) ลืมของหรือของหล่นโอกาสที่ได้ของคืนก็มีอยู่มาก ร้านอาหารต่างๆก็คิดเงินตรงไปตรงมาดี
อัธยาศัย – คนที่นี่อัธยาศัยดีมากเหมือนคนญี่ปุ่นเลย แม้เขาจะคุยกับเราไม่รู้เรื่อง แต่ก็เต็มใจช่วยเหลือหรือแม้กระทั่งทักทายโดยไม่รังเกียจ เคยไปกินข้าวที่หมู่บ้านแมว แม้เขารุ้ว่าเราพูดจีนไม่ได้ก้ยังพูดจีนใส่น่าจะประมาณว่าอาหารเป็นไง อร่อยไหม แม้จะไม่ค่อยถุกปากแต่ก็ยิ่มๆไปสไตล์คนไทย
บัตรเครดิต – ร้านค้าส่วนใหญ่รับบัตรเคสดิตเป็นปรกติ VISA Mastercard ได้หมด แม้กระทั่งร้านขายขนมต่างๆถ้าเป็นย่าน Shoping รับบัตรแน่นอน ท่านที่ตั้งใจจะไป shoping โดยเฉพาะรองเท้าเคลียงวงเงินบัตรรอไว้เลยครับ :3
เตรียมตัวยื่นวีซ่า ไปที่บอกว่ายื่อวีซ่าที่ไหน อย่างไรข้ามไปเลย แต่จะมาพูดถึงการเตรียมตัวสักหน่อย

เนื่องจากไต้หวันมีแรงงานไทยไปทำงานถึงกว่า 3 หมื่นคน เป็นอันดับหนึ่ง (อันดับ 2 เกาหลีไต้ 7 พันคน) ทำให้ยังคงจำเป็นต้องขอวีว่าเพื่อเขาประเทศเข้าอยู่ เพราะถ้าไม่มีวีซ่ารับรองพี่โรบินฮูดชาวไทยหนีไปทำงานกันเพียบแน่นอน ซึ่งการขอวีซ่าไม่ใช้เรื่องยาก (แต่แค่เสียเวลาเพราะสถานที่ยื่นยังไม่รองรับคนจำนวนมากนัก) ซึ่งการเตรียมตัว เตรียมเอกสารให้พร้อมไว้จักเป็นการดีอย่างมากเพราะจะได้ย่นทีเดียวเสร็จไม่ต้องวุ่นวาย

ฟอร์มกรอกขอวีซ่า – อย่าลืมกรอกฟอร์มขอวีซ่าให้เรียบร้อยเสียก่อนโดยเข้าไปที่ >>Link<< แม้จะเยอะหน่อยแต่ก็ไม่ได้ลำบากไปนัก ถ้าเทียบกับฟอร์มขอวีซ่าอีกหลายประเทศ แนะนำว่าจองตั๋วเครื่องบิน โรงแรมให้เรียบร้อยก่อนแล้วค่อยกรอกฟอร์มขอวีซ่านะครัช และอย่าลืมติดรูปถ่าย โดยตัดให้พอดีกรอบ แต่จะเป็น 2*2 หรือ 2*1 นิ้ว ไม่มีปัญหาได้หมด
บัญชีเงินฝาก – นอกจากบัญชีเงินเดือนที่มีเงินเข้าทุกเดือนเพื่อการันตีว่าเรามีงานประจำทำแล้ว แนะนำว่าเพิ่มบัญชีเงินฝากเข้าไปด้วย ย้อนหลังราวๆ 3 เดือน ซึ่งควรจะมีเงินอยู่อย่างน้อย 30,000 บาท (ซึ่งบางท่านอาจจะใช้การโยกเงินมาใส่ไว้แล้วถ่ายเอกสาร จากนั้นก็เอาไปใช้อย่างไรก็ตามแต่) เพื่อการันตีว่าท่านไปเที่ยวจริง ไม่ได้เตรียมหนีไปทำงานนะจ๊ะ
เอกสารสำคัญ – กรณีดูงานถ้ามีหนังสือเชิญจากแบรนด์ไต้หวันจะทำให้ท่านขอวีซ่าได้อย่างง่ายดายมากขึ้น แต่กระนั้นถึงจะมีหรือไม่มีหนังสือเชิญ ก็ต้องมีจดหมายรับรองการทำงานจากหน่วยงานของท่าน เซ็นจากเลยเซนต์จริง พร้อมประทับตราบริษัท อย่าใช้การสแกนหรือพิมพ์ออกมา เคยเจอแล้วต้องมาขอใหม่เบย
เอกสารเพิ่มเติม – ล่าสุดน้องผู้หญิงบนึนเดียว โดนขอเอกสารเพิ่มเป็น หนังสือรับรองบริษัท ประกันสังคม และหลักฐานการเสียภาษี ซึ่งปรกติไปมาไม่เคยโดนขอ คิดว่าเนื่องจากเป็น ญ เดินทางคนเดียวเลยโดนขอเอกสารเพิ่มเติม ส่วนผมเคยไปคนเดียวก็ไม่ถูกขอนะ ส่งสัยไปบ่อยจนเขาเบื่อละ 55
เอกสารจำเป็นทั่วๆไป – ก็พวกสำเนาบัตรประชาชน ทะเบียนบ้าน พาสปอร์ต รูปอีก 1 รูป และเงิน 1700 บาท สำหรับ Single viza
Multiple visa – เป็นวีซ่าทำหรับเดินทางหลายครั้งต่อปี มีคนอย่างได้เยอะ แต่ก็โอกาสได้ต่ำมากๆ แม้จะจองตั๋วเผื่อหลายๆรอบก็ตาม ส่วนใหญ่ที่ได้จะเป็นคนที่ทำงานให้บริษัทใต้หวัน หรือไม่ก็มีหนังสือรับรองการเดินทางไปทำงาน
อื่นๆ –
เวลายื่นวีซ่าไปให้ไปราวๆ 7.30 – 8.00 เกินนั้นชีวิตคุณจะเปลี่ยนทันที
จัดเรียงเอกสารให้พร้อมสรรพโดยจะมีบอกที่บ้ายประกาศสถานธูตนะ
ขี้เกียจไปก็จ้างคืนอื่นไปยื่นแทนได้ส่วนใหญ่ราวๆ 500 บาท
DSC00354

ขอดีของการทำวีซ่าไต้หวัน – นอกจากได้เดินทางเข้าไต้หวันแน่นอนแล้ว พร้อมโอการที่ถูกส่งกลับเรียกได้ว่าแทบเป็น 0 (กรณีไปญีปุ่นหรือเกาหลี นี่ต้องเตรียมโปรแกรมเดินทาง etc เผื่อเขาขอดูด้วย แถมถ้าหน้าตาเหมือนแรงงาน ตอบอะไรก้ไม่ได้ มีโอกาสถูกส่งกลับอยู่ไม่น้อยนะครัช ต้องไปลุ้นอีกทีที่สนามบินบ้านเขา) แถมเมื่อท่านเดินทางไปประเทศอื่นๆที่ไม่ต้องขอวีซ่าอย่าง ญี่ปุ่นหรือเกาหลี โอกาสที่ท่านถูกส่งกลับน้อยมากเพราะมีวีซ่าไต้หวันการันตีอยู่ในระดับหนึ่ง ผมเดินทางไปญี่ปุ่น ฮ่องกง สิงค์โปรนี่ เตรียมแพลนไปดิบดีไม่เคยถูกถามอะไรเบย คงเพราะเขาเห็นวีว่าไต้หวันนี่ละ 555

เตรียมตัวก่อนเดินทาง

แลกเงิน – ร้านค้าส่วนใหญ่ในไต้หวันรับบัตรเครดิสเกือบทั้งหมด กรณีพกเงินสดก็มักจะใช้จ่ายตามแหล่งท่องเที่ยว เดินทาง เติมบัตร สัก 5000 บาท ก็อยู่สำหรับ 1 คน แต่แนะนำว่าถ้าจะเผื่อไว้อีกหน่อยแลกเป็นเงิน US ไปด้วยก็จะดีเพราะตามห้างส่วนใหญ่ไม่ค่อยรับแลกเงินไทย (แต่ตามธนาคารบางสาขาก็รับอยุ่นะครับ)
ร่ม – ไต้หวันเป็นเกาะจึงเป็นธรรมดาที่ฝนจะตกมันได้ทุกฤดู แม้ฤดูหนาฝนยังตกได้ (ยิ่งโคตรหนาวไปใหญ่) จึงควรเตรียมร่อม หรืออุปกรณืกันฝนไป ทั้งตัวท่านและกระเป๋า แต่ไต้หวันขึ้นชื่อเรื่องของการทำร่มอยุ่แล้ว ถ้าไม่เตรียมไปจะไปซื้อที่โน้นก็แจ่มไม่น้อย
รองเท้า – ไม่ว่าประเทศไหนๆก็ต้องเตรียมร้องเท้าที่ใส่เดินสบายที่สุดยิ่งไต้หวันนี่เดินอย่างเยอะ ผมไปนี่วันๆไม่เคยต่ำกว่าหมื่นก้าว หรือจะทิ้งคู่เก่าแล้วไปซื้อคุ่ใหม่ที่โน้นก้ได้นะครัช ไต้หวันขึ้นชื่อเรื่องรองเท้าผ้าใบอยู่แล้วทั้งถูกและให้เลือกเยอะ (แต่ระวังรองเท้ากันนะ 55)
แผนการเดินทาง – เตรียมวางแผนการเดินทางที่เที่ยวต่างๆสักหน่อย เช้าไปไหน เที่ยง บ่าย เพราะบางที่บางวันปิด บางที่เปิดสายๆเที่ยงๆ หรือถ้าจะออกเช้ามีที่ไหนน่าไปบ้าง ลองเช้คลองดุ เผลอๆ 1 วงันอาจจะได้ครบตามที่ต้องการก็ได้
ยารักษา – กรณียาสามัญประจำบ้านหรือยารักาประจำตัวสามารถพกไปด้วยได้ และแนะนำไปให้พกไปด้วยเพราะที่โน้นแม้จพมีร้านขายยาทั่วไป แต่ก็ซื้อได้ยากนอกจากคุยไม่รู้เรื่องแล้ว ยาบางอย่างจำเป็นต้องมีใบรับรองแพทย์จึงสามารถซื้อได้

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

[PANTIP] Review ทริปวัยรุ่นพาเที่ยว “ไต้หวัน” ด้วยตัวเองครั้งแรก ไม่ยาก และ ไม่ต้องใช้งบเยอะ